ภาพหน้าปกของเกม Cotton Fantastic Night Dreams แบบสาวน้อยอนิเมะน่ารักๆ
เมื่อเรานึกถึงเกมแนว ยิงแนวนอน แบบ 2D ( โดยเฉพาะ ยานบินอวกาศ แบบว่าบังคับยานให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า หลัง บน ล่าง โดยที่ฉากเลื่อนไปข้างหน้าอย่างเดียว ) เรามักจะนึกถึงยานอวกาศบินไปยิงไป ตะลุยด่านต่างๆในอวกาศอันไกลโพ้น เจอข้าศึกศัตรูมากมายทั้งเอเลี่ยนต่างดาวและพวกเครื่องจักรกลสุดโหด หรือ ฝูงยานกองกำลังฝ่ายศัตรูต่างๆ ตะลุยจากดาวหนึ่งไปอีกดาวหนึ่งอย่างดุเดือด ระเบิดกระจุยกระจาย อย่างเช่นเกมอย่าง Gradius ของค่าย Konami อันเป็นตำนาน และ R-Type ของค่าย Irem ซึ่งกลายเป็นต้นแบบให้กับเกมยิงแนวยานอวกาศ 2D ( Side Scroll Shooting ) เกมอื่นๆในยุคต่อมา
Cotton นั้นเป็นเกมที่แตกต่าง โดดเด่น และมีเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใครในเกมแนวเดียวกัน เพราะเป็นการฉีกแนว จากเกมยานยิงที่เป็น Sci-Fi ตะลุยอวกาศ มาเป็น Fairy Tales ตะลุยแดนเวทมนต์มหัศจรรย์แทน โดยที่ตัวเอกนั้นเปลี่ยนจากยานอวกาศ มาเป็น พ่อมดแม่มดตัวน้อย ( โลลิ ) ขี่ไม้กวาดบินแทน โดยเนื้อหาของเกมนั้น แทนที่จะเป็นยานอวกาศบุกสู้กับเอเลี่ยนและหุ่นยนต์ในอวกาศ ก็เปลี่ยนเป็น นักเวทย์ตัวน้อยขี่ไม้กวาดบินสู้กับพวกสิ่งมีชีวิตโลกเวทยมนต์ในเทพนิยายอย่างเช่น ภูติแคระปาขวาน , ภูติดอกไม้ยิงกระสุนอกมาเป็นโน้ตดนตรี , ตัวตลก , ฟักทอง Halloween , อัศวินงูยักษ์ , ต้นไม้ปีศาจยักษ์ , มังกรไฟ , ภูตินางฟ้า ( ฝ่ายชั่ว ) , จอมมารร้าย และอื่นๆ โดยที่ผสมผสานเข้ากับความแก่นแก้ว น่ารัก กวนๆ ของตัวละคร ทำให้มันขนานนามว่าเป็น Cute’em Up ( ประมาณว่า “ น่ารักแหลก “ ) แทนที่จะเป็น Shoot’em Up ( ยิงแหลก )
จากยานอวกาศยิง ( Gradius ) มาเป็นแม่มดน้อยขี่ไม้กวาด ( Cotton )
ภาพใบปลิว Cotton Fantastic Night Dreams จากทาง SEGA ตอนที่ลงระบบตู้เกม Arcade
เกมในซีรีย์ Cotton สร้างและพัฒนาโดยค่าย Success นั้นมีการทำออกมาหลายภาค และเนื้อเรื่องของเกมตระกูล Cotton แต่ละภาคนั้นก็แตกต่างกันไป และไม่ได้เชื่อมโยงกันแต่อย่างใด โดยที่แก่นเรื่องราวโดยรวมคือ ตัวละครแม่มดน้อยที่มีชื่อว่า Cotton ชื่อเต็ม คือ Nata de Cotton ( Cotton ที่แปลว่า สำลี หรือ ฝ้าย ) ซึ่งหลงไหลลูกกวาดวิเศษที่เรียกว่า Willow ( คำว่า Willow เป็นชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่ง ) เป็นชีวิตจิตใจ ลุ่มหลงอย่างหนักถึงขนาดละเมอเพ้ออยากกินอยู่ทุกวันๆ และตั้งใจจะกิน Willow ให้หมดทุกอันที่มีในโลก
“ เหอๆๆๆๆๆ Willow จ๋า หนูจะกินให้หมดเลย อิๆๆๆๆๆ “
เพื่อที่จะทำให้เข้าใจและเห็นภาพเกี่ยวกับตัวละคร Cotton และเกมในตระกูล Cotton ให้ชัดเจนขึ้นนั้น ต้องขออนุญาติเล่าเรื่องราวของ Cotton – Fantastic Night Dream ( ภาคแรก ) ก่อนครับ
เรื่องมีอยู่ว่าโลกเวทยมนต์ ( Fairyland ) ที่เคยสงบสุขนั้นจู่ๆมีหมอกมืดอันชั่วร้ายเข้าปกคลุมไปทั่วแดน ทำให้ทุกชีวิตที่อาศัยอยู่นั้นประสบความทุกข์ยากลำบากมาก ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเลย
จนกระทั่งวันหนึ่ง ในขณะที่แม่มดน้อย Cotton ผู้ซึ่งไม่เคยสนใจอะไรในโลกนี้เลยนอกจากอยากสวาปามลูกอม Willowอยู่อย่างเดียว ( ประมาณว่าต่อให้โลกแตกก็ไม่สนจ้า ) กำลังเดินอยู่ในป่า อยู่นั้นนางฟ้า Silk ( คำว่า Silk ที่แปลว่าผ้าใหม ) ก็บินตกลงมาต่อหน้าต่อตา อ้อนวอนขอให้ Cotton ช่วยเธอและโลกเวทยมนต์ Fairyland ด้วย แต่ดูเหมือนว่า Cotton จะเดินผ่านไปแบบไม่สนใจใยดีแต่อย่างใด จนกระทั่ง Silk พูดว่า ถ้าหาก Cotton สามารถกำจัดเหล่าปีศาจร้ายก็จะได้ ลูกอม Willow มากินนะ ชั่วพริบตาเดียวพอ Cotton ได้ยินดังนั้น ก็หูผึ่งโตขึ้นทันที แล้วตัดสินใจปราบเหล่าปีศาจเพื่อช่วยกู้โลก ( หรือเพื่อจะได้แดก Willow ทั้งหมดนั่นเอง )
Cotton ผู้หลงไหล Willow เป็นชีวิตจิตใจ ( ถึงขนาดเพ้อใจลอยทั้งวัน )
และแล้วนางฟ้าแสนสวย Silk ก็ตกลงมา แล้วขอความช่วยเหลือ
แล้วน้อง Cotton ก็ไม่สนใจ แบบว่า ไม่ใช่เรื่องของตู
พอได้ยินว่าถ้าช่วยปราบปีศาจแล้วจะได้ Willow เท่านั้นก็หูโตทันตาเห็น
แล้วก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เป็นคนละคนเลย พร้อมลุย เพื่อ Willow เอ้ย !! เพื่อโลก
แล้วพอได้ Willow อันแรกมากน้อง Cotton ก็ชักอดใจไม่ไหว เริ่มตบะแตกจะขว้ามากินให้ได้ แต่ Silk รีบแย่ง Willow แล้วห้ามปรามไว้ว่า ถ้าหาก Cotton สามารถปราบเหล่าปีศาจได้ทั้งหมดแล้วรวบรวม Willow ได้ทั้งหมด 7 อันล่ะก็ มันก็จะรวมกันเป็น “ อภิมหา Willow “ ขนาดมหึมาในทันที ก็ประมาณให้ “ อดเปรี้ยวไว้กินหวาน “ ทำนองนั้นล่ะครับ เมื่อเป็นเช่นนั้น น้อง Cotton ก็ออกตะลุยปราบปีศาจต่อไปจ้า
“ โอ้ Willow จ๋า หนูจะทนไม่ไหวแล้ว ขอกินหน่อยจ้า // เตรียมจะคว้า “
“ ใจเย็น ยั้งปากไว้ก่อน แล้วจะได้น้า Willow อันใหญ่ถ้าทำสำเร็จ // โดนบีบ “
“ โอ้ นั่นสินะ ลูกอม Willow อันใหญ่เบิ้ม กำลังเรารออยู่ // น้ำลายยืด “
“ แหะๆๆๆ ได้ Willow อีกแล้ว “
“ ได้มา 2 อันแล้วอยากกินจัง // จ้องดู Willow “
“ เอาล่ะอีกก้าวหนึ่งแล้วเพื่อ Willow เอ้ยไม่ใช่ !! เพื่อโลก “
แน่นอนว่าพอผ่านไปนานเข้าๆ มันก็มีบ้างที่น้อง Cotton จะทนไม่ไหว จะเขมือบ Willow ให้ได้ จน Silk ต้องรีบบินหอบเอา Willow ไปให้พ้นมือ Cotton แล้วพยายามเกลี้ยกล่อมให้ Cotton สู้ต่อไปจนกว่าจะจบครับ
“ ได้อีก 1 อันแล้ว “
“ เฮ้ย เอามาให้ตูกินเดี๋ยวนี้เลย อย่านี้นะยัย Silk !!! “
และแล้วหลังจากเพียรพยายามสู้ผ่านได้แล้วรวบรวม Willow ไปเรื่อยๆ จนปราบปีศาจมังกรแล้วได้ Willow อันที่ 7 ได้แล้ว ก็มีผู้หนึ่งปรากฏตัวออกมานั้นก็คือ นางมารร้ายที่ชื่อ Wool เธอตั้งใจจะกลืนกิน Cotton ไปพร้อมๆ กับ Willow ทั้ง 7 เลย
“ โทษนะท่านมังกร หนูไม่ได้เกลียดอะไรท่านหรอก หนูแค่…. “
“ หนูแค่จะเอา Willow แสนอร่อยมากินเฉยๆ อิๆๆๆๆๆๆ “
“ ฮ่าๆๆๆๆ ทำได้ดีมาก Cotton ที่รวบรวม Willow มาทั้ง 6 อัน แต่ว่านะเธอจะไม่ได้กลับ Fairyland หรอกเพราะชั้นจะกินเธอพร้อมกับ Willow ทุกอันเลย “
ฉากสุดท้ายเผชิญหน้ากับ จอมมารสาว Wool
หลังจากปราบมารร้าย Wool ได้สำเร็จ Cotton ก็ได้เข้าเฝ้าราชินี Velvet ผู้ครอง Fairyland ราชินีก็ทรงขอบพระทัยที่ Cotton ช่วยปราบปีศาจและรวบรวม Willow ทั้ง 7 มาให้ได้สำเร็จ ว่าแล้วราชินีก็ปลดปล่อย Willow ทั้ง 7 บินออกไปส่องแสงสว่างเป็นแสง 7 สีบนฟ้าเพื่อขจัดหมอกดำปีศาจออกไปจนหมด ดูเหมือนว่าโลกปลอดภัย ทุกคนอยู่ได้อย่างผาสุขอีกครั้ง ยกเว้น Cotton เธอยืนช็อคแข็งเป็นหินอยู่ หัวใจสลายเพราะ อดกิน Willow เลย และดูเหมือนว่าที่ Silk บอกว่าWillow ทั้ง 7 อันมารวมกันจะได้ Willow อันมหึมานั้นเป็นเรื่อง “ โกหก “ เพื่อกระตุ้น ( หรือ หลอกใช้ ) ให้ Cotton มีความพยายามต่อสู้ขับไล่ปีศาจเท่านั้นเอง เมื่อเห็น Cotton ยังช็อคอยู่ดังนั้น Silk ก็เลยพูดปลอบ ( หรือ หลอกอีกครั้ง ) ว่าในอีกดินแดนหนึ่งมี Willow ทองคำถูกโจรชั่วขโมยไป ถ้าหากกำจัดโจรได้ ก็จะได้กิน Willow ทองคำอันนั้น พอได้ยินปุ๊บน้อง Cotton เหมือนได้เกิดใหม่เลย ตาโตเป็นประกายใสแจ๋ว แล้วรับวิ่งออกไปตามหา Willow ทองคำอย่างสายฟ้าแล็ปเลยครับ ( พลังความอยากของคนมันช่างทรงพลังจริงๆ น่อ )
ราชินี Velvet ขอบพระทัยที่ Cotton เอา Willow ทั้ง 7 กลับมาได้
แล้วก็ปล่อย Willow ออกไปเปล่งประกายเพื่อขจัดหมอกดำอันชั่วร้ายออกไปจากโลก
แต่ Cotton นั้นช็อคแข็งเป็นหินเพราะอุตส่าห์ได้ Willow มาทั้งหมดแต่ไม่ได้กินเลย แถมโดน Silk หลอกใช้อีก ( น่าสงสารจัง ^_^ )
แต่พอได้ยินว่ายังมี Willow ทองคำอยู่ที่อื่นอีก ก็ตาโตพร้อมลุยทันที ( โดน Silk หลอกอีกแล้วจ้า )
แล้วก็วิ่งแจ้นแบบสายฟ้าแล็ปไปเลย เพื่อ Willow แล้ว ขึ้นสวรรค์หรือนรกก็ไม่หวั่นจ้า
จากเรื่องราว บุคลิกอันน่ารัก กวนๆ และรูปแบบตัวละครแนวเด็กสาวน้อยโลลิ ของ Cotton ทำให้น้องเขาเป็นตัวละครที่เป็นที่ชื่นชอบเอ็นดูของเหล่าแฟนๆอนิเมะ ( อาจจะรวมทั้งพวกโอตาคุ ) และตัวละครนางฟ้าผู้ช่วยอย่าง Silk ก็เป็นตัวละครที่เร่าร้อนเซ็กซี่มาก ( จนไม่แน่ใจว่าเป็นเกมสำหรับเด็กหรือเปล่า ) ทำให้ Cotton กลายเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่นิยมอยู่นานดีเทียว จริงๆแล้ว Cotton อาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวละครที่เป็น Anti-Hero ตัวน้อยเลยทีเดียว เพราะเป็นตัวละครเอกที่ดูไม่น่าจะเป็นตัวละครที่จะมีบทบาทกู้โลกได้เลย แล้วก็ออกช่วยโลกเพียงเพราะอยากกิน Willow เท่านั้น ไม่ได้ทำเพื่อใครๆเลยครับ จึงโดน Silk เอาเรื่อง Willow มาล่อ ( หรือ หลอกใช้ ) ให้สู้ครับ ทำให้ Cotton เป็นตัวละครที่ทั้งน่ารัก ตลก และมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครเลยครับ
นางฟ้า Silk คู่หูของ Cotton ที่ไปไหนไปด้วยกันเสมอ ( เห็นเย้ายวนแบบนี้ ไม่แน่ใจว่าเป็นเกมให้เด็กเล่นหรือเปล่าอ่ะนะ )
Silk ในเกม Paranoma Cotton
Silk ในภาค Cotton Boomerang
แต่ไม่ว่าภาคไหนๆ Silk ก็โดน Cotton แกล้งอยู่เป็นประจำ ( โดยเฉพาะหลังจากภาคแรก ที่โดนหลอกใช้ )
เกมต่างๆในตระกูล Cotton เท่าที่ Success จะเคยทำนั้นมีดังนี้ เริ่มจาก Cotton – Fantastic Night Dream ( ตามเรื่องราวที่เล่าไปข้างต้น ) ออกจำหน่ายออกมาเป็นเกมตู้ Arcade ในระบบ Sega System 16B ในปี 1991 แล้วค่อยนำมาลงในระบบ PC Engine/TurboGrafx-16 ในรูปแบบ Super CD-ROM game ซึ่งก็เอามาลงในระบบ Sharp X68000 Home computer เช่นกัน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นภาคน่าจะเป็นภาคแรกและภาคเดียวที่จัดจำหน่ายโดย SEGA หลังจากนั้นในปี 1999 ก็มีการทำอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง สำหรับลงเครื่อง Playstation ( แล้วลงในเครื่อง Neo Geo Color Pocket ในปี 2000 ) โดยเปลี่ยนชื่อเป็น Cotton Original
Cotton Fantastic Night Dreams ในระบบ Super CD-Rom ( PC )
ภาพปกหลังของ Cotton Fantastic Night Dreams ในระบบ Super CD-Rom
ปกหลังของ Cotton Original ซึ่งก็คือ Cotton Fantastic Night Dreams เวอร์ชั่น Playstation
เจอกับหนึ่งในบอสของเกมที่สุดเท่ห์และมีเอกลักษณ์ อัศวินสาวงูยักษ์
หลังจากนั้นก็ตามด้วย Märchen Adventure Cotton 100% ลงในระบบ Super Famicom ในปี 1994 ซึ่งรูปแบบการเล่นนั้นเหมือนกับภาค Fantastic Night Dream ทุกประการ แต่มีการออกแบบฉากที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ซึ่งแตกต่างจากภาคแรกอย่างมากและศัตรูตัวร้ายมากมายหลากหลายและโดดเด่น รวมทั้งใช้โทนสีที่อ่อนและสดใสกว่าภาคแรกซึ่งออกแนวมืดๆทึบๆ ในภาคนี้มีการเอามาทำลง Playstation ในปี 2003 โดยเปลี่ยนชื่อเป็น Cotton 100% แทน
ภาพปกของ Märchen Adventure Cotton 100% บนเครื่อง Super Famicom
ภาพกราฟฟิกดูมีสีสันสดใสขึ้น และการออกแบบฉากที่อลังการขึ้นด้วย
ต่อมาก็ภาค Paranoma Cotton ซึ่งลงในเครื่อง Mega Drive หรือ Genesis ในปลายปี 1994 ซึ่งคราวนี้มาในรูปแบบกึ่ง 3D หรือที่เรียก Pseudo-3D shooter มาในแนวเดียวกับ Space Harrier ของ SEGA ซึ่งภาพและฉากต่างๆในเกมนั้นบางครั้งอาจชวนตาลายเหมือนกับยาหลอนประสาทเลยครับ
ภาพหน้าปก
ลักษณะเกมเป็นแบบกึ่ง 3D พุ่งไปข้างหน้าตรงแทนด้านข้าง
เหล่าศัตรูทั้งหลาย ( บอส ) ที่น้อง Cotton ต้องมาเผชิญในภาคนี้
Cotton 2 – Magical Night Dreams ออกมาในแบบเกมตู้ Arcade ในปี 1997 หลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็วางจำหน่ายลงเครื่อง Sega Saturn ซึ่งถือว่าเป็นภาคต่อจาก Cotton – Fantastic Night Dreams อย่างเป็นทางการเลย โดยมีตัวละครใหม่เพิ่มมา 2 ตัว คือ Appli เจ้าหญิงที่มาพร้อมกับหมวกพูดได้ของเธอ ที่ชื่อ Needle รูปแบบการเล่นของเกมก็กลับเข้าสู้เกมแนวยานยิงแนวนอนเหมือนกับภาคแรกครับ ซึ่งในภาคนี้ถือเป็นการผสมผสานระหว่าง 2D Platformer กับ Shoot’em Up อย่างลงตัว ในตอนที่เกมวางจำหน่ายครั้งแรกในระบบ Sega Saturn ในปี 1998 นั้น ยังมีแถม ปฏิทิน แบบมินิด้วย
ปกหน้า
ปกหลัง
Cotton Boomerang ถูกพัฒนาขึ้นในปี 1998 วางจำหน่ายในระบบเกมตู้ Arcade แล้วตามมาลงในเครื่องเกม Sega Saturn ตามลำดับ โดยเกมนั้นผสมผสานกราฟฟิกและรูปแบบการเล่นจากภาคก่อนๆ ( เช่น Cotton 2 ) กับไอเดียใหม่ๆมากมาย ( เหมือนกับที่ Märchen Adventure Cotton 100% ผสมผสานรูปแบบของเกม Cotton – Fantastic Night Dreams เข้ากับฉากใหม่ๆไอเดียใหม่ๆ ) ที่โดดเด่นคือ ในภาคนี้เราสามารเลือกเล่นตัวละครอื่นๆอย่าง เช่น นางฟ้า Silk และ หมวกพูดได้ Needle เป็นต้น
ภาพปกเกม Cotton Boomerang
Cotton ในภาค Cotton Boomerang
ตามด้วย Silk นางฟ้าสุดเซ็กซี่เย้ายวนเหมือนเคย
เจ้าหญิงฟักทอง Appli และ หมวกพูดได้ Needle คู่แข่งของ Cotton ( ตัวละครใหม่ )
Cotton ในแบบ Alternative Version ผมทอง และ Appli ในแบบ Alternative Version ผมม่วง
จุดเด่นในภาคนี้ คือ เลือกตัวละครได้ หลากหลาย
นางฟ้า Silk ออกตะลุยเดี่ยวเลย
Rainbow Cotton วางจำหน่ายในปี 2000 สำหรับเครื่องเกม Dreamcast ในภาคนี้กลับมาเป็น แนวยิงแบบ 3D (ก่อนหน้านั้นคือ Paranoma Cotton ) รูปแบบเกมดูเป็น 3D เต็มตัว ด้วยกราฟฟิกแบบโพลิกอนเหลี่ยม ที่ดูสวยงาม แต่ดูเหมือนว่าเกมจะไม่โดนใจแฟนคลับของเกม Cotton นัก เนื่องจากส่วนใหญ่อยากให้เกมกลับไปเป็นแบบเดิมอย่างที่เคยเป็นมากกว่าเลยไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่
ปกหน้าและปกหลังของ Rainbow Cotton ( Dreamcast )
ระบบการเล่นเป็นแบบ 3D เต็มรูปแบบ เห็นในหลากหลายมุมมอง
Magical Pachinko Cotton วางจำหนายลงบน Playstation 2 ในรูปแบบของเกม ปาจิงโกะ เป็นครั้งแรก ถือว่าแตกต่างจากเกมอื่นๆในซีรีย์
ปกหน้าและปกหลังของ Cotton Magical Pachinko
ลักษณะการเล่นแบบ ปาจิงโกะ
หลังจากนั้นดูเหมือนว่า Cotton จะไม่มีเกมออกมาอีกเลยแต่อย่างน้อยก็ได้ปรากฏตัวเป็นตัวละครแขกรับเชิญ ( Special Guest Character ) ในเกม Rondo of Swords ( ค่าย Success เหมือนเคย ) หรือ ชื่อญี่ปุ่นว่า 偽りの輪舞曲 ( อ่านออกเสียงว่า Itsuwari no Rondo ) ซึ่งออกวางจำหน่ายในญี่ปุ่นในปี 2007 ซึ่งเป็นเกมแนววางแผน ผสม RPG โดยที่ตัวละครแม่มดน้อย Cotton ออกร่วมเดินทางไปกับกลุ่มตัวละครเอกด้วย
……..เรียกได้ว่าเป็น “ เกมสุดท้าย “ ที่ Cotton ปรากฏตัวครับ
Rondo of Swords สำหรับ Nintendo DS
โฉมหน้าของ Cotton ที่ปรากฏตัวเป็นครั้งสุดท้ายครับ ( ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ไปน้องเขาก็ยังน่ารัก ไม่โต ไม่เปลี่ยนเลย ^_^ )
ถึงแม้ว่าจะไม่มีเกม Cotton ออกมาอีกแล้ว แต่แม่มดน้อย ผู้ลุ่มหลงในลูกอม Willow จะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป ความน่ารัก กวนๆ ตลกๆ ฮาๆ ของ Cotton เตือนให้เราระลึกถึงเกมที่มีเนื้อหาสร้างสรรค์เต็มเปี่ยมไปด้วยจินตนาการที่ให้แรงบันดาลใจ ซึ่งต่างจากเกมในยุคปัจจุบันที่มีแต่ความรุนแรง เลือดสาด และความมืดมน นอกจากนี้ยังเป็นการแหวกแนวจาก เกมยานอวกาศยิง 2D ที่ออกตะลุยอวกาศมาเป็นโลกแฟนตาซีเวทยมนต์สุดน่ารักที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ที่มอบความสนุกให้กับทุกคนในครอบครัวได้ครับ
“ ง่ำๆๆๆ…..อาหย่อย……อาหย่อย “
หลังจากเล่ารายละเอียดภาพรวม เรื่องราวโดยรวมและข้อมูลเกมต่างๆเกี่ยวกับเกมต่างๆทั้งหมดในตระกูล Cotton แล้ว คราวหน้าผมจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับ Cotton ต่อครับ รวมทั้งรายละเอียดและเกร็ดอื่นๆเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกม คราวหน้าจะขอลงเจาะลึกระบบการเล่นของเกมและฉากต่างๆ ในเกม Märchen Adventure Cotton 100% ซึ่งถือว่าเป็นเกม Cotton ภาคที่สำคัญที่สุดภาคหนึ่งในตระกูล ที่ประสบความสำเร็จ และ มีไอเดียที่น่าสนใจมากมายครับ แล้วเจอกันในบทความคราวหน้าครับ
ครบรอบ 35 ปี แห่งความสำเร็จของค่าย Success ( ประสบความสำเร็จสมกับที่ชื่อ Success ) ที่มอบความสุขให้กับนักเล่นเกมเสมอมา ( ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1978 )
บทความโดย Outsiderofoutlander