“วาดอะไรให้เราหน่อยสิ”
ผู้ใหญ่ทั้งโลกเหงื่อแตกพลั่กๆถ้าพูดถึงการวาดภาพต่อหน้าคนส่วนใหญ่ เขาจะปฏิเสธความสามารถทางศิลปะของตัวเอง หาข้อแก้ตัว และทำในสิ่งที่หลีกเลี่ยงการมีดินสอในมือตัวเอง
แต่ถามเด็กห้าขวบทำในสิ่งเดียวกัน ภายในเสี้ยววินาที พวกเด็กจะวาดภาพ อธิบายและสร้างสรรค์งานที่เป็นชิ้นยอดออกมาให้เราได้ชม
ดังนั้นเกิดอะไรขึ้นระหว่างเด็ก 5 ขวบกับพวกเราที่ทำให้เรากลัวที่จะวาดภาพ
อะไรทำให้คุณกลัว?
สำหรับคนหลายๆคน มันคือเมื่อไรที่พวกเขาพบว่าภาพวาดของเขาไม่มีอะไรเหมือนกับความเป็นจริง เขาสามารถเห็นข้อผิดพลาดชัดเจน แต่ไม่มีความคิดว่าจะแก้มันยังไง ความรู้สึกนั้นคือถ้าเขาไม่สามารถวาดอะไรก็ตามที่สมบูรณ์ เขาจะไม่วาดมันออกมา
บางทีก็มาพร้อมกับความประหลาดใจ เช่น เมื่อเพื่อนร่วมชั้นเรียนของคุณล้อเลียนภาพ”ครอบครัว”คุณว่าเหมือนยีราฟกับเอเลี่ยน
นั่นเป็นคำติที่รุนแรงสำหรับทุกคน ละเว้นเด็กไปเลยค่ะ แต่มันไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ใช่ศิลปิน(และความเห็นของเด็กคนอื่นๆก็ไม่ได้ทำให้เด็กคนนั้นกลายเป็นนักวาดขั้นสุดยอดนะคะ)
คนส่วนใหญ่คิดว่าศิลปินมีพรสวรรค์บางอย่าง และเราสรุปว่าศิลปินบางคนเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ทางศิลปะ แต่ถ้าคุณมองที่ภาพของเด็กๆที่เป็นศิลปินมืออาชีพ พนันได้เลยว่าคุณจะเจอรูปแบบการวาดเส้นเขี่ยๆและมนุษย์ก้างที่คุณเคยวาดเมื่อยังเด็ก
ความแตกต่างก็คือพวกเขาไม่เคยหยุดที่จะวาดแม้เส้นจะเขี่ย และในบางจุด เขาเรียนรู้ที่จะวาดภาพ ไม่ว่าจะเป็นจากหนังสือ วีดีโอ ครู หรือว่าเรียนด้วยตัวเองจากการฝึกจำนวนมาก
คุณอยากวาดเป็นไหม?นี่เป็นข่าวดี ใครๆก็เรียนรู้ที่จะวาดรูปได้ ข่าวร้ายคือการวาดรูปนั้นยาก
“วาดภาพล้อเลียนของอั้ม พัชราภาสิ”คนอื่นที่รู้ว่าคุณวาดรูปได้เขาอาจจะพูดแบบนั้น
หรือไม่ก็ “ลูกของชั้นชอบเรือใบ วาดเรือใบให้ดูหน่อย”
สิ่งที่คนไม่เข้าใจก็คือ มันอาจจะใช้เวลากว่าชั่วโมงในการทำให้เสก็ตซ์ดีๆนั้นวาดออกมาได้ และใช้เวลาอีกสามชั่วโมงนั้นในการเรนเดอร์หรือวาดภาพให้ละเอียด การวาดภาพไม่เหมือนกับการดีดนิ้วดังเป๊าะแล้วภาพออกมาทันที
มากกว่าเวลาและความพยายาม มันต้องการของจริงหรือภาพถ่ายเพื่อที่จะวาดได้ดี และนักวาดหรือศิลปินคนไหนที่วาดหรือเพนท์ภาพของจริงจะเจอในสิ่งเดียวกันนั่นก็คือพวกเขาต้องใช้ภาพ reference หรือแบบ
นั่นคือสิ่งที่คนที่อยากจะเป็นศิลปินรู้สึกท้อใจ เพราะเขาพยายามที่จะวาดจากความทรงจำ หรือจากจินตนาการและพอทำแบบนั้นสิ่งที่ออกมาบนกระดาษก็จะเลวร้ายเสมอ แต่ว่าศิลปินจำนวนมากมีปัญหาเดียวกันเช่นกัน และมันเป็นเพราะแนวทางที่สมองของเรานั้นทำงาน
ความเป็นจริงคือ มันไม่มีความจำเป็นที่จะคิดว่าเราต้องเกิดมาพร้อมกับความสามารถในการเป็นศิลปิน มีใครสักคนสามารถเป็นครูคุณอยู่มากมาย บวกกับเวลาและความพยายามของคุณ คุณก็สามารถวาดรูปได้เช่นกันค่ะ
เพราะว่าการวาดรูป โดยพื้นฐานแล้ว การวาดรูปเป็นทักษะที่สามารถเรียนรู้โดยใครก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ต้องการจะเรียนรู้
การวาดรูปเป็นรูปแบบหนึ่งของการค้นพบเทคนิคและสไคล์ การระดมสมองและความคิดสร้างสรรค์ มันสามารถเป็นการแสดงออกและการรับรู้ในตน
สำหรับศิลปินอย่างช่างเพนท์,นักออกแบบ,สถาปนิก,นักวาดการ์ตูน,นักวาดภาพประกอบและช่างเขียนแบบ กระบวนการเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ที่เราต้องมีคือการมีทักษะ,ความรู้และเรื่องต่างๆเกี่ยวกับการวาดภาพให้ดีเสียก่อน เราต้องสามรถควบคุมมันได้ถึงแก่น การวาดภาพประกอบนั้นเป็นความกลมกลืนระหว่างทักษะกับความอ่อนไหวของรสนิยม,ไอเดีย,ความคิดสร้างสรรค์ ความรู้ แล้วก็ความรู้!
note:ข่าวดีคือคุณไม่ต้องใช้ reference ในบางครั้ง ถ้า visual library คุณเยอะพอหรือคุณวาดสิ่งนั้นๆมามากพอ
อ้างอิง
http://emptyeasel.com/2006/12/03/no-artistic-talent-dont-worry-anyone-can-learn-to-draw/
http://www.veriartschool.net/2015/12/drawing-is-not-natural-talent-anyone.html