.
อีกไม่กี่วันจะถึงวันเกิด ครบสามรอบ
เราได้เรียนรู้อะไรใน 35 ปีที่ผ่านมา
‘Let go=ปล่อย+วาง’
สำคัญกว่า move on เพราะถ้าเราไม่ปล่อย สัมภาระทางใจ เราไม่มีทาง move ได้ ดังนั้นเราเข้าใจความยากของการ move on และปล่อยวางดี มันเป็นความทรมานใจเหมือนเรากินอาหารสุดหรูมาครึ่งจานดันเจอหนอนในผักแล้วต้องตัดใจทิ้ง เราอาจจะเสียดายอาหาร เสียดายความอร่อย แต่ลองคิดดูในชีวิตคุณกี่ครั้งที่เจอหนอนในจานผัก แต่คุณเลือกที่จะกินต่อ
อ่าน let go ของ pat flynn นานมาแล้ว แล้วมาอ่านช่างแ*งของMark Manson พบว่าคำสองคำนี้ใกล้กันมาก เพียงแต่อยู่คนละ stage ในความคิดเรา let go คือเรียนรู้ที่จะปล่อยในขณะที่ใจเราอาจจะยังรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ช่างแ*งคือเกิดขึ้นแล้วและพยายามที่จะรับว่านั่นคือความผิดเราแต่เราทำดีที่สุดแล้วปล่อยมันไป
มนุษย์ทุกคนมีเห็ดป็อกในตัว เราสามารถเริ่มเกมนี้ได้ใหม่เสมอ ตราบที่ยังมีชีวิต เราต่างจากมาริโอตรงที่จำนวนเห็ดป็อกในชีวิตเราไม่มีจำกัดจนกว่าเราจะตาย แต่เรากลับเลือกทำผิดซ้ำๆโดยไม่เรียนรู้ที่จะปล่อยมันไป เราเหมือนมาริโอที่เลือกที่จะเดินตกท่อเรื่อยๆ ซ้ำๆ เรียนรู้เกมในด่านเดิมซ้ำๆไม่ไปด่านใหม่ เพราะเราไม่ยอม let go
บางครั้งถ้าอยากเริ่มใหม่ เราต้องเป็นคนเลือกที่จะกดปุ่มพาวเวอร์ ปิด แล้วรีสตาร์ทตัวเอง กำจัดไฟล์ขยะในชีวิตออกไป แล้วเลือก ที่จะเริ่มต้นด่านใหม่ของชีวิต ใช้เห็ดป็อกอันนั้น แล้วเริ่มต้นใหม่ ในวันที่ที่เราเป็นคนที่ดีกว่าเดิม เมื่อเราเป็นคนใหม่ โลกย่อมให้ประสบการณ์ใหม่ๆแก่เรา เสมือนอยากได้สมการที่เปลี่ยนไป หรือสิ่งที่เปลี่ยนไป ต้องเปลี่ยนที่ตัวแปร หรือสารตั้งต้น ซึ่งก็คือ ตัวเรา นั่นเอง
.
10 years anniversary
1.อัตตาหิ อัตตาโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
2.ชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอน
3.no pain, no gain
4.อย่าคาดหวังอะไรกับลูกศิษย์นอกจากความสุขระหว่างเรียน
5.ใช้ชีวิตไปเถอะ เราเป็นแค่ส่วนเล็กๆของอะไรใหญ่ๆ เป็นเศษธุลีของจักรวาล ปัญหาเราเล็กน้อยจะตาย
6.เป็นตัวของตัวเอง
7.มีคนที่ต้องการเราอีกมาก
8.ชีวิตเหมือนหนังสติ๊กยิ่งตกแรงยิ่งเด้งขึ้นสูง
9.อย่าไปสนขี้ปากคนอื่นมาก
10.ปล่อยวาง ในบางครั้งก็ต้อง “ช่างแ*ง”
.
สิ่งที่เสียไประหว่างเดินทาง
1.เพื่อนคนนึง ที่มีความหมายกับเราจนปัจจุบันนี้
2.สุขภาพ
.
สิ่งที่ได้
1.ความหมายของการมีชีวิต
2.ได้อยู่กับครอบครัว
3.ธุรกิจส่วนตัว
4.ทำให้ชีวิตคนอื่นดีขึ้น